วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วันศิลปินแห่งชาติ

24 กุมภาพันธ์ - วันศิลปินแห่งชาติ : ปราชญ์แห่งศิลปะของแผ่นดิน

ดัชนีบทความ
24 กุมภาพันธ์ - วันศิลปินแห่งชาติ : ปราชญ์แห่งศิลปะของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
E-book
ทุกหน้า
1คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนศิลปินให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท

เพื่อระลึกถึงวันคล้ายพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ 2310 เอกอัครศิลปินที่ยิ่งใหญ่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระอัจฉริยภาพในงานศิลปะหลายสาขา ทั้งทางด้านประติมากรรม ได้ทรงร่วมกับช่างประติมากรรมฝีมือเยี่ยมในสมัยนั้นแกะสลักบานประตูไม้พระวิหาร วัดสุทัศน์เทพวรารามเป็นลายเครือเถารูปป่าหิมพานต์นับเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมด้านวรรณกรรม ถือว่าทรงเป็นกวีเอกแห่งแผ่นดินพระองค์หนึ่ง ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมไว้จำนวนมากมายหลายเรื่อง เช่น อิเหนา ซึ่งเป็นวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรในรัชกาลที่ 6 ว่าเป็นยอดของกลอนบทละครรำ นอกจากนี้ยังทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกไว้ถึง 5 เรื่อง ได้แก่ ไกรทอง พระไชยเชษฐ์ คาวี สังข์ทอง และมณีพิชัย และด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในด้านวรรณกรรม ทรงได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาวรรณกรรม และเพื่อเป็นการยกย่องศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้มอบรางวัลให้แก่ ศิลปินที่มีผลงานดีเด่นในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติศิลปิน

คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนศิลปินให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท นอกจากนี้เป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของชาติให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชน โดยดำเนินการเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ มีวัตถุประสงค์ในขณะนั้นว่า ต้องยกย่อง เชิดชู สนับสนุน ส่งเสริม รวมถึงช่วยเหลือศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะอันทรงคุณค่า
  
ศิลปินแห่งชาติทุกท่าน ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า เป็นปราชญ์ทางด้านศิลปะที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้ที่อุทิศตนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันล้ำค่าไว้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษย์ชาติ ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐและประชาชนชาวไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันธำรงรักษาส่งเสริม สนับสนุน ให้กำลังใจแก่ศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และเป็นการสานต่อมรดกทางวัฒนธรรมจากศิลปินรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งให้สืบทอดเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติไทยสืบไป กว่าที่จะมาเป็นศิลปินแห่งชาติได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครจะมาเป็นก็ได้ แต่ต้องมีความสามารถหลายอย่าง และเป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรักวิชาชีพของตน มีความสร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะแขนงนั้นจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความเป็นนักปราชญ์ในทางความรู้ ความสามารถของศิลปินที่ได้อุตสาหะอุทิศตนสร้างสรรค์ผลงานในด้านศิลปะมากมาย ใน ๓ สาขา ได้แก่
 
๑. สาขาทัศนศิลป์ คือ ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตา จะเป็นศิลปะสองมิติหรือสามมิติ ซึ่งได้แก่ ผลงานศิลปกรรมประเภทต่างๆ ที่แสดงถึงภูมิปัญญาของผู้สร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตาแบ่งออกเป็น
วิจิตรศิลป์ประยุกต์ศิลป์ได้แก่
๑. วิจิตรศิลป์
๑.๑ จิตรกรรม ได้แก่ ภาพเขียนสี ฯลฯ และ ภาพลายเส้น
๑.๒ ประติมากรรม ได้แก่ งานปั้น แกะสลัก การหล่อ ฯลฯ
๑.๓ ภาพพิมพ์ ได้แก่ ภาพพิมพ์ทุกชนิด เช่น ภาพพิมพ์ไม้ ภาพพิมพ์หิน ภาพพิมพ์ร่องลึก และภาพพิมพ์ตะแกรงไหม รวมถึงผลงานศิลปะประเภท MONOPRINT คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
๑.๔ สื่อประสม ได้แก่ ผลงานศิลปกรรมที่ใช้กรรมวิธีทางวัสดุต่าง ๆ สื่อทางเทคโนโลยี ได้แก่ งานประเภทจัดวาง ฯลฯ
๑.๕ ภาพถ่าย ได้แก่ ผลงานศิลปะภาพถ่าย ที่เสนอด้วยสื่อและกรรมวิธีต่าง ๆ
 ๒. ประยุกต์ศิลป์
 ๒.๑ สถาปัตยกรรม ได้แก่ สถาปัตยกรรมแบบประเพณี สถาปัตยกรรมร่วมสมัย
 ๒.๒ สถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์ ได้แก่ การจัดตกแต่งภายในอาคาร
 ๒.๓ การออกแบบผังเมือง ได้แก่ การจัดองค์ประกอบของชุมชน กลุ่มอาคาร สิ่งแวดล้อม และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับส่วนของเมือง
 ๒.๔ ภูมิสถาปัตยกรรม ได้แก่ การจัดองค์ประกอบของสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับอาคาร ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมของสาธารณะในชุมชนและพื้นที่ธรรมชาติ
๒.๕ การออกแบบอุตสาหกรรม ได้แก่ การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผ่านกระบวนการผลิตให้มีประโยชน์ใช้สอยละมีความเหมาะสมกับวัสดุที่ใช้ในการผลิตอย่างมีศิลปะ
 ๒.๖ ประณีตศิลป์ ได้แก่ ผลงานประยุกต์ศิลป์ประเภทอื่น ๆ ที่ใช้ศาสตร์และศิลป์ สร้างสรรค์ขึ้นด้วยวัสดุและกรรมวิธี เพื่อความสุนทรียภาพและ / หรือมีประโยชน์ใช้สอย
๒. สาขาวรรณศิลป์ คือ บทประพันธ์ที่ปลุกมโนคติของผู้อ่าน ทำให้เกิดจินตนาการความเพลิดเพลิน และเกิดอารมณ์ต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของผู้ประพันธ์ ได้แก่ กวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยาย บันเทิงคดี สำหรับเด็กและเยาวชน อาทิ หนังสือเด็ก วรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง
๓. สาขาศิลปะการแสดง คือ ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการแสดง ซึ่งเป็นได้ทั้งแบบดั้งเดิมหรือพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นได้ทั้งวิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์ รวมทั้งศิลปะพื้นบ้าน ได้แก่ การแสดง ดนตรี และการแสดงพื้นบ้าน แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ดังนี้
 ๓.๑ ดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย
 ๓.๒ ดนตรีไทย หมายถึง การบรรเลงเครื่องดนตรี และการขับร้อง ทั้งที่เป็นมาตรฐาน กลางของชาติ เช่น ปี่พาทย์ เครื่องสาย มโหรี ดนตรีในพระราชพิธี รัฐพิธี และพิธีการของชาวบ้าน ทุกภูมิภาค รวมทั้ง การดนตรี การขับร้องพื้นบ้านของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย ตลอดจนการพากย์ เจรจา เสภา เห่ กล่อมต่าง ๆ
๓.๓ นาฏศิลป์ไทย หมายถึง การแสดงนาฏศิลป์ของไทย ทั้งที่เป็นของราชสำนัก ของส่วนราชการ และการแสดงทั่วไป เช่น โขน ละคร ฟ้อนรำ ระบำ ลิเก และการแสดงพื้นบ้านของภาค ต่าง ๆ ในประเทศไทย
๓.๑.๑ ดนตรีสากลและนาฏศิลป์สากล
๓.๒.๒ ดนตรีสากล หมายถึง การบรรเลงเครื่องดนตรีและการขับ ร้อง ซึ่งในที่นี้แบ่งออกเป็น ๓ สาขาย่อย คือ ดนตรีคลาสสิก ดนตรีไทยสากล และดนตรีลูกทุ่ง

   
ลักษณะและความหมายของเข็มศิลปินแห่งชาติ
ลักษณะของเข็ม เป็นเหรียญกลม ภายในจัดองค์ประกอบเป็นภาพดอกบัวเรียงกันสามดอก มีแพรแถบรองรับต่อเนื่อง อ้อมรัดแถบริ้วธงชาติไทยตามแนวโค้งของเหรียญ ภายในผ้าจารึกคำว่า "ศิลปินแห่งชาติ" และได้อัญเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี ประดิษฐานไว้เหนือเหรียญกลมโดยมีผ้าโบพันรอบคฑาไม้ชัยพฤกษ์ หัวเม็ดทรงมัณฑ์ เชื่อมประสานระหว่างกัน 
 
   
ความหมาย
แสดงถึงความเป็นปราชญ์ในทางความรู้ความสารมารถของศิลปินที่ได้อุตสาหะอุทิศตนสร้างสรรค์ผลงานในด้านศิลปะ ไว้มากมายจนเป็นมรดกอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมของชาติทั้งในสาขาวรรณศิลป์ ทัศนศิลป์ และศิลปะการแสดง ซึ่งได้รับการยกย่องเชิดชู เกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ โดยได้รบพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศิลปินแห่งชาติ เข้ารับพระราชทานเข็มเพื่อความเป็นสิริมงคลยิ่งแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลต่อไป

 โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกจากการระดมความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิในด้านศิลปะทุกสาขา ดังนี้
หลักเกณฑ์ที่ ๑ คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ
๑ ) เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันตัดสิน
๒) เป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่น เป็นที่ยอมรับของวงการศิลปินแขนงนั้น
 ๓) เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะแขนงนั้นจนถึงปัจจุบัน
๔) เป็นผู้ผดุงและถ่ายทอดศิลปะแขนงนั้น
๕) เป็นผู้ปฏิบัติงานศิลปะแขนงนั้นอยู่ในปัจจุบัน
๖) เป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรักในวิชาชีพของตน
 ๗) เป็นผู้มีผลงานที่ยังประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ
หลักเกณฑ์ที่ ๒ คุณค่ามาตรฐานผลงานศิลปะ
๑. ผลงานสื่อให้เห็นถึงคุณค่าในความดี ความงาม คุณค่าทางอารมณ์ สะท้อนความเป็นธรรมชาติ หรือสถานภาพทางสังคม และวัฒนธรรมแห่งยุคสมัย ค่านิยม จริยธรรม เอกลักษณ์ของท้องถิ่น และเอกลักษณ์ของชาติ
 ๒ . ผลงานสร้างสรรค์แสดงออกถึงแนวคิด กระตุ้นและพัฒนาทางสติปัญญาแก่มนุษยชาติด้านศิลปะสาขานั้น ๆ
๓ . ผลงานสร้างสรรค์ให้ความรู้สึกสะเทือนใจ ให้พลังความรู้ และส่งเสริมจินตนาการ
๔ . ผลงานสร้างสรรค์มีเอกลักษณ์เฉพาะตนไม่ลอกเลียนแบบจากผู้อื่นหรือมีกลวิธีเชิงสร้างสรรค์
หลักเกณฑ์ที่ ๓ การเผยแพร่และยอมรับคุณค่าผลงานของศิลปินแห่งชาติ
 ๑. ผลงานได้รับการจัดแสดงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐานอ้างอิง โดยเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิด พัฒนาการทางงานศิลปะอย่างเด่นชัด
 ๒. ผลงานได้รับรางวัลหรือเกียรติคุณในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาเป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น